เรือนจำเพชรบุรี ปล่อยตัว 120 ผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ หนึ่งในนั้นคือ ‘วิลสา’ ภรรยาคนที่ 3 ‘หมอสุพัฒน์’ ที่หนีโทษประหารไปถูกจับที่พม่า ต้นเหตุให้เกิดคดีโหดฆ่าฝังดินคนงานเพราะหึงหวง เผยอาจไปใช้ชีวิตที่อังกฤษ...
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 22 ธ.ค. เรือนจำกลางเพชรบุรี ได้ปล่อยตัวผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ได้รับการปล่อยตัวตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2559 เนื่องในโอกาสการขึ้นทรงราชย์สืบราชสันตติวงศ์ ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 โดยมีผู้ต้องราชทัณฑ์ที่เข้าเกณฑ์ได้รับพระราชทานอภัยโทษ จำนวนรวม 120 คน
ทั้งนี้ ได้แบ่งการปล่อยตัวเป็น 2 ช่วง ช่วงแรก 47 คน ซึ่งหนึ่งในผู้ได้รับการปล่อยตัวช่วงแรก มี น.ส.วิลสา จันทรบัญชร อายุ 44 ปี ภรรยาคนที่ 3 ของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เลาหะวัฒนะ อดีตอายุรแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ต้องหาหลบหนีคำพิพากษาประหารชีวิตของศาลจังหวัดเพชรบุรี ในคดีฆ่าผู้อื่น ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ได้ถูกทางการเมียนมาจับกุม ควบคุมตัวอยู่ที่เมืองเมาะละแหม่ง รัฐมอญ (จับชัวร์ตัวจริง 'หมอสุพัฒน์' ภาพโดนรวบคาโสร่งในพม่า ขนเงินติดตัวเพียบ)
ส่วน น.ส.วิลสา จันทรบัญชร ถูกพนักงานอัยการจังหวัดเพชรบุรี ฟ้องเป็นจำเลยร่วมกับ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ในคดีลักทรัพย์เป็นรถยนต์ กระบะโตโยต้า ไทเกอร์ ของนายสามารถ นุ่มจุ้ย และนางอรษา เกิดทรัพย์ สองสามีภรรยาชาวไร่สับปะรด ใน อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ที่หายสาบสูญไป ต่อมาเมื่อ พ.ศ.2556 ศาลเพชรบุรีได้มีคำพิพากษาคดีแดงที่ 4377 / 2556 ให้ทั้งคู่มีความผิดตาม ป.อาญา ม.335 จำคุก พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ จำนวน 5 ปี ส่วน น.ส.วิลสา ให้การเป็นประโยชน์ในชั้นพนักงานสอบสวนจึงลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือโทษจำคุก 3 ปี 4 เดือน ขณะศาลอ่านคำพิพากษา พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ไม่มาฟังคำพิพากษา และหลบหนี
ภายหลังมีคำพิพากษา น.ส.วิลสา ถูกส่งตัวเข้ารับโทษจองจำที่เรือนจำกลางเพชรบุรี ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2558 และมีกำหนดพ้นโทษจริงในวันที่ 31 พฤษภาคม 2561 ขณะถูกจองจำปฏิบัติตนเป็นนักโทษชั้นดี คดีทั่วไป เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2559 เนื่องในโอกาสพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ครองสิริราชสมบัติ ครบ 70 ปี จึงได้รับการลดโทษ 1 ปี 1 เดือน 10 วัน มาแล้ว 1 ครั้ง และครั้งนี้ในโอกาสการขึ้นทรงราชย์สืบราชสันตติวงศ์ ของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูรรัชกาลที่ 10 ได้รับการอภัยโทษ ปล่อยตัว รวม น.ส.วิลสา ถูกจองจำจริง ประมาณ 15 เดือน
หลังได้รับการปล่อยตัว ปรากฏว่าไม่มีญาติของ น.ส.วิลสา มารอรับแต่อย่างใด มีเพียงนายประเสริฐ หรือแก้ว ว่องอุดมทรัพย์ อดีตลูกน้องคนสนิท พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ มารับ เบื้องต้น น.ส.วิลสา ปฏิเสธการให้สัมภาษณ์ แต่จากการสอบถามนายประเสริฐ ทราบว่า น.ส.วิลสา อาจเดินทางไปอาศัยอยู่ที่ประเทศอังกฤษ และรีบเดินขึ้นรถยนต์มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีขาว หมายเลขทะเบียน กง 8212 ชุมพร ออกไปทันที
อนึ่ง คดีลักทรัพย์ ที่ น.ส.วิลสา และพ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ถูกดำเนินคดีร่วมดังกล่าว เป็นต้นเหตุแห่งการขยายผลสืบสวนไปค้นบ้านพักในไร่ ของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ที่บ้านท่ามะริด ต.กลัดหลวง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี และคลินิกของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ในกรุงเทพฯ พบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก ทั้งยังพบแรงงานต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองในไร่ พบว่ามีการทารุณกรรมแรงงานชาวพม่า ทั้งยังขยายผลขุดพบโครงกระดูกมนุษย์ 3 โครง ที่ไร่ของ พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ก่อนจะมีการตรวจพิสูจน์ทางดีเอ็นเอ แล้วพบว่าเป็นโครงกระดูกของ นายอีต้า แรงงานเมียนมา ที่ถูก พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ฆ่าเมื่อประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2547 เนื่องจากไม่พอใจที่สนิทสนมกับ น.ส.วิลสา ภรรยาคนที่ 3 เป็นเหตุให้พนักงานอัยการจังหวัดเพชรบุรี สั่งฟ้อง พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ เพิ่มอีก 2 ข้อหาคือ 1.รับคนงานต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตเข้าทำงาน, ให้ที่พักพิงซ่อนเร้นแก่คนงานต่างด้าวเพื่อให้พ้นการจับกุม และข้อหาค้ามนุษย์ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ร.บ.การทำงานของคนต่างด้าว และ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ศาลจำคุก 8 ปี 33 เดือน และให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ผู้เสียหายรวม 1 ล้านบาท
2.ร่วมกันฆ่าคนตายโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน คดีถึงที่สุดเมื่อศาลพิพากษาประหารชีวิต พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ และนายเอกผู้เป็นบุตรชายข้อหาร่วมกันฆ่า ส่วนนายอัครบุตรชายอีกคนที่ร่วมก่อคดีขณะเกิดเหตุอายุ 19 ปี เศษยังไม่บรรลุนิติภาวะ ศาลลดโทษให้กึ่งหนึ่งพิพากษาลงโทษจำคุก 25 ปี 3 เดือน
อย่างไรก็ตาม ระหว่างพิจารณาคดี พ.ต.อ.นพ.สุพัฒน์ ได้หลบหนีหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยนานกว่า 1 ปี กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามควบคุมตัวได้แล้วขณะหลบหนีไปกบดานอยู่ในประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา อยู่ในระหว่างดำเนินการนำตัวกลับมาดำเนินคดี.

From: http://www.thairath.co.th/content/818906