หนุ่มโวยโดนยึด‘ออสตินมินิ’ ซื้อ6ปี อยู่ๆศุลกากรโผล่ อ้างนำเข้าผิดก.ม.

loading... หนุ่มกรุงมาอยู่ชุมพร โวยถูกศุลกากรตามยึดรถคลาสสิกรุ่นคุณปู่ “ออสตินมินิ” ทั้งที่ซื้อต่อมาจากเจ้าของเดิม มีเอกสาร โอนกรรมส...

loading...


หนุ่มกรุงมาอยู่ชุมพร โวยถูกศุลกากรตามยึดรถคลาสสิกรุ่นคุณปู่ “ออสตินมินิ” ทั้งที่ซื้อต่อมาจากเจ้าของเดิม มีเอกสาร โอนกรรมสิทธิ์ ตรวจสภาพ จดทะเบียน เสียภาษี ขับมา 6 ปี จู่ๆ โดนจับ อ้างเป็นรถนำเข้าผิดกฎหมาย...
วันที่ 27 ธ.ค.59 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นายพงศ์ธร พันธ์รักษ์เดชา อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40/32 ซอยลาดพร้าว 83 (จิตต์อารีย์) แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร ปัจจุบันช่วยครอบครัวทำธุรกิจอยู่ในจังหวัดชุมพร ว่าเมื่อปี พ.ศ.2554 ตนเองได้ซื้อรถยนต์ยี่ห้อออสติน มินิ สีดำคาดขาว หมายเลขทะเบียน กค 5834 ชุมพร มาจากเจ้าของเดิมชื่อนายรัฐศักดิ์ พงษ์ศักดิ์ขจร อายุ 32 ปี บ้านอยู่ตำบลทุ่ง อ.เมืองชุมพร ในราคา 350,000 บาท ซึ่งเป็นรถที่มีสภาพเก่า และได้โอนชื่อจากเจ้าของเดิมมาเป็นของตนกับสำนักงานขนส่งจังหวัดชุมพร
นายพงศ์ธร กล่าวต่อว่า ได้ใช้รถคันดังกล่าวมานานกว่า 6 ปีแล้ว และทุกๆ ปีได้นำรถไปต่อทะเบียนเสียภาษีประจำปีกับสำนักงานขนส่งจังหวัดมาตลอด จนกระทั่งเมื่อประมาณต้นปีที่ผ่านมาตนได้นำรถไปทำสีใหม่เปลี่ยนเป็นสีฟ้า หลังคาสีขาว และกำลังจะนำไปต่อเสียภาษีประจำปี 2559 และ 2560 พร้อมแจ้งเปลี่ยนสีใหม่ จนกระทั่งช่วงบ่ายของเมื่อวานนี้ ได้มีเจ้าหน้าที่จากกรมศุลกากร ซึ่งตนมาทราบภายหลัง โทรมาหาตนในลักษณะทำทีเหมือนติดต่อจะขอซื้อรถคันดังกล่าว และนัดให้ตนขับรถออกมาพบกันริมถนนบริเวณใกล้ศูนย์ราชการ แต่พอตนขับรถพร้อมนำเอกสารไปให้ดู กลุ่มชายฉกรรจ์ที่มากัน 3-4 คน ได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมศุลกากร พร้อมอ้างว่ารถคันดังกล่าวเป็นรถผิดกฎหมาย ที่ลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศและมาสวมทะเบียน จึงขอยึดรถไว้เพื่อนำไปตรวจสอบที่กรมศุลกากร กรุงเทพฯ

นายพงศ์ธร พันธ์รักษ์เดชา อายุ 36 ปี เจ้าของรถออสติน มินิ

"ผมก็ได้โต้แย้งพร้อมนำเอกสารการครอบครอง การจดทะเบียนเสียภาษีซึ่งเป็นเอกสารทางราชการถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่างเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ แต่ทางเจ้าหน้าที่ไม่สนใจจะยึดรถอย่างเดียว พร้อมเสนอว่าหากไม่อยากให้มากเรื่องก็ขอยึดไปโดยไม่พบตัวผู้ครอบครอง แต่หากว่ามีผู้ครอบครองแสดงตนก็จะมากเรื่อง จะต้องถูกตรวจสอบและสอบสวนหาที่มาที่ไปของรถ และที่สำคัญใครเป็นเจ้าของผู้ครอบครองก็จะมีความผิดตามกฎหมายด้วย"
นายพงศ์ธร กล่าวต่อว่า ตนมีความบริสุทธิ์ใจทุกอย่าง เพราะซื้อมาจากเจ้าของเดิม มีการโอน มีการตรวจสภาพและเสียภาษี มีเล่มสมุดคู่มือเสียภาษีประจำรถจากสำนักงานขนส่งจังหวัดถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง ตนจึงแจ้งกับเจ้าหน้าที่ศุลกากรชุดดังกล่าวว่า หากจะนำรถไปตรวจสอบจริงก็ต้องทำให้ถูกต้อง โดยไปลงบันทึกประจำวันการตรวจยึดที่ สภ.เมืองชุมพร เพื่อความถูกต้องและแสดงความบริสุทธิ์ใจซึ่งเจ้าหน้าที่จากกรมศุลกากรก็ยินยอมที่จะไปแสดงตนลงบันทึกประจำวันที่โรงพักแล้วยึดรถของตนไปตรวจสอบที่กรมศุลกากร กรุงเทพมหานครแล้วตั้งแต่เมื่อช่วงค่ำของเมื่อวานที่ผ่านมา
"หากถูกตั้งข้อหาว่ากระทำผิด ก็เหมือนประชาชนทั่วไป จะรู้ได้อย่างไรว่ารถยนต์คันที่ซื้อมาเป็นรถผิดกฎหมาย และที่สำคัญเมื่อซื้อมาแล้วมีการโอน เสียภาษี มีสมุดคู่มือเสียภาษีประจำรถ จากหน่วยงานรัฐถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ ในฐานะผู้บริโภคที่ซื้อของมาโดยสุจริต  แต่ต้องเสียเวลาเดินทางไปให้ปากคำที่กรุงเทพฯ รถก็ไม่ได้ใช้ เป็นการมายึดรถจากผู้ซื้อในฐานะผู้บริโภค นำไปตรวจสอบทั้งๆ ที่มีเอกสารทางราชการยืนยันถูกต้องชัดเจน จึงอยากตั้งข้อสังเกตว่า ผลจะออกมาอย่างไรก็ตาม ถ้ารถคันที่ซื้อมาผิดกฎหมายแล้วถูกอายัดเป็นของกลาง จากนั้นกรมศุลกากรนำไปประมูลขาย แล้วผลประโยชน์รางวัลนำจับ 30 เปอร์เซ็นต์จะตกแก่ใคร จึงอยากให้ผู้เกี่ยวข้องแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ไม่ใช่ปลายทางที่ผู้บริโภคอย่างนี้ แล้วจะไปเรียกร้องขอความเป็นธรรมจากใคร มันยุติธรรมแล้วหรือ” นายพงศ์ธรกล่าว

เอกสารสมุดคู่มือจดทะเบียนรถยนต์คันดังกล่าว

ด้าน นายณรงค์ธัช บำรุงธรรม นักวิชาการศุลกากรชำนาญการ กรมศุลกากร กล่าวว่าการที่เจ้าหน้าที่จากกรมศุลกากรลงไปตรวจยึดรถคันดังกล่าวนั้น สืบเนื่องมาจากมีผู้แจ้งไปยังกรมศุลกากรว่าเป็นรถผิดกฎหมายนำเข้าจากต่างประเทศแล้วนำมาสวมทะเบียน จึงได้ลงมาทำการยึดเพื่อนำไปตรวจสอบตามขั้นตอนของกฎหมายศุลกากร ซึ่งได้ชี้แจงทำความเข้าใจไปแล้ว สำหรับผู้ที่ครอบครองหรือเจ้าของรถ หากยังไม่ได้พิสูจน์จนแล้วเสร็จ ก็ยังถือว่าไม่ใช่ผู้กระทำผิด ส่วนเรื่องที่มีการซื้อขายและมีเอกสารการเสียภาษีนั้น ทางเจ้าของรถต้องไปฟ้องร้องดำเนินคดีกับทางผู้ขาย และทางสำนักงานขนส่งจังหวัดเอาเอง กรมศุลกากรจะดำเนินการเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องเท่านั้น.

From: http://www.thairath.co.th/content/822701

You Might Also Like

0 comments