นายกิตติ สุวรรณภา อายุ 26 ปี ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ ที่ดัดแปลงเป็นรถพ่วงข้าง เสียหลักตกคลองชลประทาน ริมถนนสายอ่างทอง-สิงห์บุรี จ.อ่างทอง เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงเข้าให้การช่วยเหลือ ก่อนพบว่ารถจักรยานยนต์คันดังกล่าว บรรทุกหัวจระเข้ประมาณ 80 หัว มาด้วย


เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวนายกิตติไปสอบสวนที่ สภ.เกษไชโย โดยนายกิตติเล่าว่าหัวจระเข้เป็นของเพื่อนที่เป็นสาวประเภทสอง ชื่อนายสุนันทา ประไพ อายุ 30 ปี ซึ่งได้นำมาจากฟาร์มจระเข้แห่งหนึ่งในจังหวัดอุทัยธานี เพื่อจะนำมาสตาร์ฟขาย

ซึ่งหัวจระเข้มีการเก็บดองมานานเกือบเดือน กระทั่งจะนำออกมาตากแดด แต่ปรากฏว่ามีกลิ่นเหม็นแรงรบกวนเพื่อนบ้าน นายสุนันทาจึงขอให้นายกิตติขับรถมารับ เพื่อนำไปตากไว้ที่บ้านของเขาแทน เพราะอยู่ห่างไกลจากชุมชน แต่ระหว่างทางได้มีตัวเงินตัวทองวิ่งตัดหน้า ทำให้รถเกิดเสียหลักตกลงไปในคลอง



ด้านนายสุนันทาเปิดเผยว่า หัวจระเข้ทั้งหมดนี้เป็นของตนเอง เพราะมีความชอบจระเข้และชอบของแปลก ๆ จึงได้เข้าไปตามเฟซบุ๊กจนไปเจอกับนายกิตติพงษ์ จารุธานินทร์ ที่มีอาชีพขายปลาอยู่สวนจตุจักร ซึ่งช่วยประสานเรื่องหัวจระเข้ให้

ตอนแรกก็คิดว่าจะเอามานิดเดียว แต่ทางฟาร์มบอกว่าให้เอาไปให้หมด จึงนำกลับมาดองเกลือไว้ในโอ่ง พอถึงกำหนดจะนำออกมาตาก ก็พบว่ากลิ่นเหม็นรุนแรง จึงไม่กล้าตากไว้ที่บ้าน เพราะกลัวชาวบ้านจะว่าเอาได้ จึงได้ให้นายกิตติมาเอาไปตากที่บ้านให้



ทั้งนี้ การขนย้ายหัวจระเข้ ซึ่งถือว่าเป็นซากสัตว์นั้น จะมีความผิดตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2499 และแก้ไขฉบับเพิ่มเติมฉบับที่ 2 พ.ศ. 2542 ในหมวดที่ 4 ว่าด้วยการควบคุมการฆ่าสัตว์และซากสัตว์ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังตรวจสอบความถูกต้องของฟาร์มดังกล่าว ว่ามีจริงตามที่พูดหรือไม่ หากพบว่ามีความผิด ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป




From: http://kanomjeeb.com/article-details.php?item=8532