สาปดอกสร้อย ตอนที่ 7

loading... ดอกสร้อยน้อยใจและผิดหวังในตัวพ่อมากที่มาขอร้องไม่ให้เอาผิดฟองจันทร์ หากเธอทำอย่างนั้นเท่ากับเว้นโทษให้ปลิวด้วย แล้วตัดพ้อ...

loading...


ดอกสร้อยน้อยใจและผิดหวังในตัวพ่อมากที่มาขอร้องไม่ให้เอาผิดฟองจันทร์ หากเธอทำอย่างนั้นเท่ากับเว้นโทษให้ปลิวด้วย แล้วตัดพ้อต่อว่าพ่อว่าจะปล่อยให้คนชั่วที่ย่ำยีเธอลอยนวลหรือ คำป้อน เองก็ไม่อยากให้ลงเอยแบบนี้ แต่ถ้าเธอเอาผิดปลิว ฟองจันทร์จะติดร่างแหไปด้วย “พ่อจ๋า พ่อเคยรักเคยห่วงสร้อยบ้างไหม ระหว่างสร้อยกับน้าฟองจันทร์ พ่อรักใครมากกว่ากัน” คำป้อนเลี่ยงที่จะตอบคำถาม ดอกสร้อยรู้ทันทีว่าพ่อรักเมียมากกว่าลูกในไส้ เดินจากไปอย่างช้ำใจ... ด้านฟองจันทร์ถึงกับปล่อยโฮเมื่อรู้จากคำป้อนว่าดอกสร้อยยังไม่รับปากใดๆทั้งสิ้น ซอมพอต้องเข้ามา กอดปลอบใจแม่ สามคนพ่อแม่ลูกต่างกังวลใจไม่เป็นอันทำอะไร... ความเจ็บช้ำน้ำใจที่ได้รับทำให้ดอกสร้อยวิ่งมายืนร้องไห้เพียงลำพังที่ชายป่า ยิ่งหวนนึกถึงเหตุการณ์ที่ถูกปลิวทำร้ายและพยายามจะขืนใจ หนำซ้ำพ่อยังมาขอร้องไม่เอาผิดคนชั่วยิ่งทำให้เธอทั้งโกรธทั้งเสียใจ ผีกะ ต้องการแก้แค้นปลิวจึงเข้าสิงร่างดอกสร้อยแล้วพุ่งไปยังทิศทางที่บ้านผู้ใหญ่สักตั้งอยู่... ที่ลานหน้าบ้านผู้ใหญ่สักซึ่งถูกจุดคบไฟสว่างไสว ปลิวถูกจับมัดติดกับเสาโดยมีหนานอินคอยเดินตรวจเวรยามอยู่ใกล้ๆ เขาไม่อยากถูกเอาตัวเข้ากรุงศรีฯพยายามติดสินบนมือขวาของผู้ใหญ่สัก นอกจะไม่รับเงินจากเขา หนานอินยังด่าเขาอีกต่างหากว่าเสียแรงเป็นถึงตำรวจแต่อกตัญญูแผ่นดินคิดจะติดสินบนเอาตัวรอด ร้องเรียกให้ลูกน้องเอาผ้ามาปิดปากปิดตาไว้ ปลิวไม่พอใจพยายามดิ้นหนีแต่ไม่เป็นผล “อย่าได้รับรู้เห็นแลเทียวพูดจาดูถูกคนอีก” หนานอินมองลูกน้องปิดปากปิดตาปลิวด้วยความสะใจ... อีกมุมหนึ่งของบ้านผาหมอก ดำสั่งสมุนให้เตรียมตัวไปช่วยปลิว เพราะขืนทิ้งไว้แบบนั้นไกรอาจย้อนมาฆ่าเขาได้ พวกสมุนต่างรับคำแข็งขัน... ในเวลาต่อมา ขณะหนานอินกับลูกน้องเดินตรวจตราอยู่รอบบริเวณที่ปลิวถูกจับมัด คบไฟที่จุดรายล้อมอยู่รอบๆค่อยๆดับลงทีละดวงจนมืดสนิท หนานอินสั่งการให้ลูกน้องจุดไฟ แต่ยังไม่ทันจ่อไฟเข้ากับคบ เห็นชายสองคนมีผ้าคาดหน้าด้อมๆมองๆอยู่ ลูกน้องตะโกนถามว่าใคร พวกนั้นกลับวิ่งหนี หนานอินสั่งให้ตามจับตัวมาให้ได้ จากนั้นทั้งเขาและลูกน้องพากันไล่ตามชายปริศนาทั้งสองคนไป ดำที่มีผ้าคาดหน้ารอจนพวกนั้นลับสายตารีบเข้าไปแก้มัดผ้าปิดปากลูกพี่ออก ยังไม่ทันจะแก้ผ้าผูกตา หนานอินถือดาบวิ่งกลับมาเสียก่อน “ข้านึกแล้วเชียว พวกเอ็งต้องลวงข้าออกไป” ดำกับหนานอินต่อสู้กันด้วยเพลงดาบ ดำแกล้งสู้ไม่ได้วิ่งหนีโดยมีมือขวาของผู้ใหญ่สักไล่ตาม... แก้วกับสมุนอีกคนหนึ่งของปลิวล่อลูกน้องสามคนของผู้ใหญ่สักไปที่มุมหนึ่งของหมู่บ้าน โดยแก้วซ่อนตัวอยู่แล้วให้สมุนวิ่งหลอกล่อพวกนั้นไปอีกทางหนึ่ง ลูกน้องของผู้ใหญ่สักหลงกลไล่ตาม แก้วรีบออกจากที่ซ่อนวิ่งย้อนกลับไปทางบ้านผู้ใหญ่สัก ooooooo ปลิวยังคงถูกมัดติดอยู่กับเสากลางลานหน้าบ้านผู้ใหญ่สัก มีผ้าปิดตาไว้ อยู่ๆมีลมพัดวูบเข้ามาพร้อมกับกลิ่นแปลกๆปะทะจมูกเขาเต็มๆ “เหม็นสาบของใดวะ” ผีกะปรากฏตัวขึ้นไม่ห่างจากกันนัก ปลิวรับรู้ได้ว่ามีใครบางคนอยู่ตรงนั้น ร้องถามว่าดำหรือ มันไม่ตอบได้แต่พุ่งตัวมายืนหายใจรดหน้า เขาเริ่มตระหนักว่านี่ไม่ใช่สมุนของตัวเอง ความกลัวแล่นจับขั้วหัวใจ... ฝ่ายหนานอินวิ่งไล่ดำที่เอาแต่วิ่งหนีไม่มีทีท่าจะต่อสู้ด้วย ก็ถึงบางอ้อทันทีว่าตัวเองถูกแผนล่อเสือออกจากถ้ำ รีบวิ่งกลับไปบ้านผู้ใหญ่สัก... ผีร้ายเงื้อมือที่มีเล็บยาวน่ากลัวขึ้นเหนือหัวปลิวหวังจะปาดหน้า แต่แก้วเข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน ผีกะ หันขวับไปหาทำให้เล็บกรีดผ้าที่มัดตาปลิวขาด เขาเห็นเพียงร่างของหญิงสาวยืนหันหลังให้ แก้วเห็นผีกะก็ตกใจมือไม้อ่อนทำดาบตกพื้นก่อนจะวิ่งหนีไม่คิดชีวิตโดยมีผีกะไล่ตาม ปลิวกลัวแทบสิ้นสติตะโกนขอให้คนช่วย ผู้ใหญ่สักได้ยินเสียงเอะอะวิ่งถือดาบเข้ามา ไม่เห็นหนานอินกับลูกน้องก็แปลกใจหายไปไหนกันหมด “พ่อผู้ใหญ่ ช่วยข้า ผีกะ...ผีกะจะฆ่าข้า” ปลิวละล่ำละลัก... แก้วหนีการไล่ล่าของผีกะในคราบดอกสร้อย เข้าป่าไปจนถึงน้ำตก กระโจนลงน้ำเพราะคิดว่าผีไม่กล้าตาม ที่ไหนได้มันวูบไปโผล่ใต้น้ำ คว้าขาเขาไว้ แล้วกระชากตัวให้หันมาเผชิญหน้า ใช้เล็บแหลมคมควักลูกตาสองข้างของเขาออก แก้วดิ้นพราดๆใต้น้ำด้วยความเจ็บปวดก่อนจะขาดใจตาย จากนั้นมันเอาดวงตาของเขามากัดกินบนโขดหินริมลำธารอย่างเอร็ดอร่อย... ทันทีที่หนานอินกับลูกน้องกลับมาถึงลานที่มัดปลิวไว้ ผู้ใหญ่สักสั่งการให้พวกนั้นเร่งจุดคบไฟ แล้วไปตามคนมาเฝ้าเวรยามเพิ่ม ปลิวกลัวจัดขอร้องผู้ใหญ่สักเอาตนไปผูกบนเรือน ตนทนอยู่ตรงนี้ไม่ไหว แล้วมองไปรอบๆสีหน้าหวาดหวั่น ผู้ใหญ่สักกลัวเขาจะเป็นอันตรายสั่งให้หนานอินพาเขาไปขังไว้บนเรือน ooooooo ฟองจันทร์กลัวดอกสร้อยไม่ยอมช่วยเหลือ ขอร้องให้คำป้อนพาหนี แต่ไม่ทันกาล หนานอินกับลูกน้องมาตามตัวให้ไปที่บ้านผู้ใหญ่เสียก่อน ดอกสร้อยเดินนำไผ่เข้ามาสมทบแจ้งว่าพร้อมแล้ว จากนั้นเดินออกไป ฟองจันทร์มองตามสีหน้าหวาดหวั่น... ทางด้านไกรเห็นผู้ใหญ่สักนำตัวปลิวลงมาจากเรือนก็ไม่พอใจ ต่อว่าว่าทำไมต้องปรนเปรอโจรเยี่ยงนี้ด้วย เขาอ้างว่าที่ต้องทำอย่างนั้นเพราะมีเหตุจำเป็น แต่ไม่ยอมบอกอะไร ไกรกับเปรื่องได้แต่เก็บความสงสัยเอาไว้... ในขณะเดียวกัน ศรีออนอยากรู้ว่าผู้ใหญ่สักจะลงโทษพวกที่ทำเลวไว้กับดอกสร้อยอย่างไรบ้าง ชวน เอื้องคำไปดู เธอไม่ยอมไปกลัวจะถูกโยนความผิดให้ฐานไม่ยอมเข้าไปช่วยตอนที่ดอกสร้อยคับขัน และยังเคืองไม่หายไม่รู้ใครสาระแนพาไผ่ไปช่วยมันไว้ ถ้าจับได้จะเอาเข็มเย็บปากให้รู้แล้วรู้รอด... ชาวบ้านต่างมารวมตัวกันที่ลานหน้าบ้านผู้ใหญ่สักกันหนาตาเพื่อฟังคำไต่สวน เมื่อทุกคนมากันพร้อมหน้าผู้ใหญ่สักสั่งให้ดอกสร้อยเล่าความจริงมาให้หมดว่าปลิวจะขืนใจเธอตามที่ไกรกับเปรื่องกล่าวหาหรือไม่ ไผ่กระซิบให้กำลังใจดอกสร้อยที่มีสีหน้าเป็นกังวล “สร้อยพูดสิ ไม่ต้องเกรงกลัวมัน มันต้องโดนถอดยศติดคุก” ดอกสร้อยตัดสินใจทำตามที่พ่อขอร้อง บอกกับผู้ใหญ่สักว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด ฟองจันทร์นัดให้เธอเข้าป่าไปหาหมากให้พ่อกิน ระหว่างรอแม่เลี้ยงมาถึง ปลิวอาสาจะช่วยแต่เธอปัดไล่เขาด้วยความเกรงใจ ไผ่มาเห็นพอดีคิดว่าเขาล่วงเกินเธอเหมือนวันก่อน ก็เลยเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น ไกรกับเปรื่องตกใจที่เหตุการณ์กลับตาลปัตร ขณะที่ฟองจันทร์แทบโดดตัวลอยด้วยความดีใจ ซอมพอกับคำป้อนรู้สึกไม่ต่างจากเธอเช่นกัน ไผ่เข้ามาต่อว่าดอกสร้อยทำไมต้องโกหกด้วย ถ้าอย่างนั้นตนจะเล่าให้ทุกคนฟังเอง เธอขอร้องให้จบแค่นี้อย่าฟื้นฝอยหาตะเข็บอีกเลย เขาไม่พอใจเดินหนีไป ฟองจันทร์รีบรับสมอ้างว่าเป็นอย่างที่ดอกสร้อยเล่าจริงๆ “หากเป็นจริงดังดอกสร้อยว่า ขุนพิศณุแสนก็ไม่ผิด หนานอินแก้เชือกปล่อยตัวท่านขุน” ไกรกับเปรื่องเจ็บใจที่ปลิวรอดตัวไปได้อีกครั้ง ดอกสร้อยมองไกรอย่างรู้สึกผิดก่อนจะเดินเลี่ยงออกไปหาไผ่ที่ยืนหงุดหงิดอยู่ อ้อนวอนให้เขาเห็นใจเธอด้วยที่เธอต้องทำอย่างนั้นก็เพื่อพ่อเพื่อความอยู่รอดของทุกคน “สร้อยปล่อยให้คนชั่วลอยนวลต่อไปมันก็แว้งกลับเล่นงานสร้อย แล้วที่พี่เสียใจนัก พี่เสี่ยงตายไปช่วยสร้อย เสี่ยงคมดาบไอ้ขุนพิศณุแสน ไอ้ขุนฤทธิไกรมันช่วยชีวิตพี่ พี่ต้องทนให้พวกมันหัวเราะเยาะเป็นหนี้บุญคุณค้ำหัวพี่...พี่วอนขอร้องให้สร้อยห่างจากมัน อย่าริคบหามันสร้อยก็ไม่เคยฟังพี่ คงเป็นเพราะสร้อยรักมัน ในเมื่อสร้อยไม่เห็นความหวังดีของพี่ คำพูดพี่ไม่มี ความหมาย พี่ก็จะไม่ยุ่งไม่กวนใจสร้อยอีก” ไผ่พูดจบผละจากไป ดอกสร้อยเสียใจที่ทำให้เขาผิดหวัง หันหลังจะกลับเรือน เจอฟองจันทร์ยืนจ้องอยู่ แทนที่จะสำนึกบุญคุณที่ช่วยเอาไว้กลับเข้ามาด่าว่าเธออีก แถมขู่ถ้าไม่อยากให้เกิดเหตุซ้ำสอง ก็ให้ตีตัวออกห่างจากไกร หากยังดื้อด้านคิดจะแย่งผู้ชายของน้องสาวจะให้ผู้ชายทั้งหมู่บ้านมารุมข่มขืน เธอหมดความอดทนตบฟองจันทร์หน้าหัน “ฉันไม่น่ากลับคำช่วยเหลือคนจัญไรอย่างนี้เลย” ฟองจันทร์ตบลูกเลี้ยงคืน “แกไม่ช่วย พ่อแกก็ต้องช่วยข้า แกก็รู้ว่าพ่อแกรักข้ามากแค่ไหน เขารักข้า มากกว่าแก” ไม่พูดเปล่าแม่เลี้ยงตัวแสบผลักดอกสร้อยแทบหงายหลัง แล้วเดินหัวเราะร่วนออกไป ดอกสร้อยเสียใจมากที่อุตส่าห์ช่วยเหลือแต่เธอไม่เคยเห็นความดี เดินร้องไห้ไปทรุดตัวที่โคนต้นกาสะลอง “แม่กาสะลองจ๋า สร้อยต้องทำยังไงพี่ไผ่ถึงจะเข้าใจสร้อย” ooooooo ปลิวไม่พอใจมากถึงกับต่อยดำหน้าหงาย เหตุใดตะลุยมาช่วยตนแล้วถึงได้หนีไปก่อนจะช่วยสำเร็จ เขาอ้างว่าทำแผนลวงให้หนานอินไล่ตาม แต่มันไหวตัวเสียก่อนวกกลับมา แต่เขาก็สั่งให้แก้วมาช่วยปลิว พูดถึงแก้วขึ้นมา ปลิวนึกได้ว่าเมื่อคืนเห็นผีกะไล่ล่าเขา พูดยังไม่ทันขาดคำ สมุนคนหนึ่งวิ่งเข้ามารายงาน “พี่ปลิว ฉันหาทั่วทุกซอกหมู่บ้าน ไม่เจอหัวไอ้แก้ว”... ที่แอ่งน้ำใต้น้ำตก เอื้องคำลงอาบน้ำสีหน้าผิดหวังที่ไม่เจอผู้ชายมาลงเล่นน้ำสักคน ขณะกำลังบ่นเป็นหมีกินผึ้ง ศพแก้วลอยอืดขึ้นมา เธอหันไปเห็นร้องกรีดสนั่นป่า ศรีออนซึ่งไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ลงไปเล่นน้ำเช่นกัน เจอศพแก้วที่ถูกควักลูกตา ตกใจแทบสิ้นสติ หนีขึ้นจากน้ำแทบไม่ทัน... ศพแก้วถูกนำมาไว้ที่ท้ายหมู่บ้านผาหมอก ทั้งไกร เปรื่องกับพวกชาวบ้านต่างมุงดูสภาพศพที่ถูกควักลูกตาอย่างสยดสยอง ปลิวเดินแหวกชาวบ้านเข้ามากับสมุนเห็นศพแก้วก็ตกใจ รีบเอาเสื้อตัวเองคลุมศพ แล้วสั่งให้ดำเอาศพไปเผา ไกรทักท้วงไม่คิดจะหาตัวคนฆ่าสมุนของตัวเองก่อนหรือ ผู้ใหญ่สักโพล่งขึ้นทันที
loading...
From: http://www.thairath.co.th/ent/novel/sarbdooksoi/ch7

You Might Also Like

0 comments