ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ร่วมกับ ป.ป.ส. และ ปปง. เปิดปฏิบัติการ “ชัยยะ สยบไพรี 60/2” บุกเข้าตรวจค้นและอายัดทรัพย์สินในพื้นที่เป้าหมายเครือข่ายท้าวไซซะนะ แก้วพิมพา นักค้ายาเสพติดที่ถูกจับกุมไปแล้ว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำนำหมายศาลเข้าตรวจค้นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร 15 จุด และพื้นที่ต่างจังหวัด รวมทั้งหมดกว่า 40 กว่าเป้าหมาย
 โดยตำรวจ ปส.จู่โจมตรวจค้น “ร้าน area 51” ตั้งอยู่ในธนดลแมนชั่น ภายในซอยอินทามระ 51 ร้านแต่งรถของเบนซ์ เรซซิ่ง หรือนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช สามีของนางเองสาว “แพท ณปภา” ทั้งนี้ มีรายงานว่า แพททราบเรื่องราวแล้วเพราะกำลังพักอยู่บนห้องพักด้วย สร้างความตกใจให้แก่นางเอกสาวอย่างมาก ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานตัวเชิญสามีมาสอบปากคำ ด้าน พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส.เปิดเผยถึงปฏิบัติการ “ชัยยะ สยบไพรี 60/2” ว่า ทาง บช.ปส.ได้สนธิกำลังร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อตรวจอายัดทรัพย์สินอย่างต่อเนื่อง ภายหลังจากที่มีการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญอย่างเครือข่ายของท้าวไซซะนะ แก้วพิมพา และเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญอีกหลายคดี

 โดยวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการขออนุญาตศาลอนุมัติออกหมายค้นจำนวน 40 หมาย ในการลงพื้นที่ 40 จุดทั่วประเทศ โดยเฉพาะในส่วนของพื้ นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล มีด้วยกัน 15 จุด เช่น ย่านนวมินทร์ บึงกุ่ม อินทามระ พระราม 5 และนครอินทร์ โดยแต่ละจุดใช้กำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปดำเนินการดังกล่าวประมาณ 15 นาย ในการยัดทรัพย์สิน เพื่อให้ผู้ต้องสงสัยได้เข้ามาชี้แจง เนื่องจากมีหลักฐานเชื่อม โยงว่า ทรัพย์สินที่ทางเจ้าหน้าที่เข้าไปทำการอายัดในครั้งนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาเครือข่ายยาเสพติดที่ท้าวไซซะนะจับกุมได้ก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ยังมีเป้าหมายเป็นตัวบุคคลซึ่งก็ได้มีการขออนุญาตศาลอนุมัติหมายจับบุคคล จำนวน 9 ราย อยู่ในพื้นที่ย่านพระราม 5 รวมถึงพื้นที่รับผิดอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 7 และ 8 ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวระบุว่า เป็นกลุ่มคนในวงการไฮโซและวงการบันเทิงตามที่เป็นกระแสข่าวนั้น พล.ต.ต.พรชัยยอมรับว่ามีหลักฐานเชื่อมโยงจริง แต่ก็ต้องมีการเชิญตัวมาสอบถามถึงข้อเท็จจริงเสียก่อน ทั้งนี้ มีรายงานว่า นางเอกสาวแพท ณปภา ยังอยู่คงภายในห้องพัก

อาคารดังกล่าว ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ตำรวจขอให้มีการประสานนายเบนซ์เข้ามาพบและชี้แจงข้อเท็จจริง ขณะเดียวกัน จากข้อมูลของเจ้าหน้าที่พบความเชื่อมโยงของรถยนต์หรูยี่ห้อลัมบอร์กินี กัลลาร์โด (Lamborghini Gallardo) รุ่น Super Leggera LP 570-4 สีเทาดำ ที่มีมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท ที่นายเบนซ์ครอบครองอยู่ มีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญของท้าวไซซะนะ หลังกลุ่มผู้ต้องหาให้การซัดทอดว่าทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติดของเครือข่ายดังกล่าวมีการนำไปซื้อรถยนต์หรูยี่ห้อต่างๆ และหนึ่งในรถยนต์หรูถูกขายต่อมาให้กับนายเบนซ์ อย่างไรก็ตาม นายเบนซ์ยังเป็นเพียงผู้ต้องสงสัย โดยสามารถนำหลักฐานเอกสารการซื้อขายครอบครองมาแสดงความบริสุทธิ์ใจต่อเจ้าหน้าที่ได้ จากการสอบถามผู้ดูแลอาคารเล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น.ที่ผ่านมา พบนายเบนซ์ขี่จักรยานยนต์ออกไปกับกลุ่มเพื่อนหลายคนแต่ไม่มีสัมภาระหรือกระเป๋าติดตัวออกไป จนถึงขณะนี้ยังไม่กลับเข้ามาที่ห้องพัก ส่วนรถลัมบอร์กินีของนายเบนซ์ พบว่ามีเพื่อนเป็นคนขับรถออกไปตั้งแต่เมื่อวานนี้ แต่ไม่ทราบเวลาที่แน่ชัด และที่ผ่านมาก็ไม่พบว่ามีรถยนต์หรูมาจอดทิ้งไว้ที่อาคารดังกล่าว แต่มักจะมีเพื่อนของนายเบนซ์ขับรถยนต์หรูเข้ามาพบบ่อยครั้ง อีกทั้งนายเบนซ์มักจะออกไปข้างนอกในช่วงกลางดึกประมาณ 01.00 น. ก่อนกลับเข้าห้องพักประมาณ 03.00 น.เป็นประจำ นอกจากนี้ ภายหลังการเข้าดำเนินการตามแผนปฏิบัติการ “ชัยยะ สยบไพรี 60/2” จะมีการแถลงข่าวภาพรวมอย่างเป็นทางการอีกครั้งในเวลา 11.00 น. ที่ ป.ป.ส.โดยในรถหรูคันดังกล่าวนั้น ทางเจ้าหน้าที่ ปปส. ได้ทำการค้นไปเมื่อช่วงสายที่ผ่าน พบหลักฐานเพิ่มเติม คือ ปืน 9 ม.ม. 1 กระบอก และปืนเอสเค 1 กระบอก และได้ยึดรถมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับบลิวไว้ เนื่องจากยังไม่มีเอกสารประจำรถมาแสดง
 From: http://bvid.me/news/